ในโลกธุรกิจผู้จัดการแต่ละคนมีทักษะในการสื่อสารที่ต่างกันออกไป แต่จะให้ผลลัพท์ที่ดีนั้นจะต้องสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่ง อาจจะเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเมื่อรู้ว่าผู้จัดการหรือเจ้าของธุรกิจบางคนที่ ไม่เคยคิดว่าตนเองมีพรสวรรค์ทางด้านการสื่อสารกลับประสบความสำเร็จในหน้าที่ การงานหรือธุรกิจ เหตุผลก็คือพวกเขาเหล่านั้นฝึกฝนและพัฒนาความสามารถในการสื่อสารอยู่ตลอด เวลา แต่เหตุผลไม่ใช่เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อต้องติดต่อกับผู้ อื่น หรือเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เกินการรับมือ แต่เป็นเพราะการมีผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจที่มีทักษะในการสื่อสารที่ถูก ต้องจะทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้อย่างแข็งแกร่ง
สิ่งแรกในการเริ่ม พัฒนาการสื่อสารก็คือ พิจารณาว่าใครในองค์กรสมควรจะรับรู้ข้อมูลที่สำคัญ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนในบริษัท ทุกคนในแต่ละสายงานไม่จำเป็นที่จะต้องรับรู้ข้อมูลทั้งหมด แต่จะต้องมั่นใจด้วยว่าคนที่รับข้อมูลสามารถเข้าใจกับสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด หากไม่แล้วจะมีปัญหาในธุรกิจตามอย่างแน่นอน ประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นหลักจากการรับข้อมูลที่ไม่ครบ แต่จะส่งผลถึงตัวพน���กงานคนอื่นซึ่งจะได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดไปด้วยและอาจ ทำให้เกิดการเสียความมั่นใจในการปฎิบัติงาน และมุมมองที่เปลี่ยนไปต่อหน้าที่การงานและต่อตัวธุรกิจ
ดังนั้นจง ตระหนักไว้ว่าพนักงานควรทราบในสิ่งที่ควรทราบ และถ้าหากข้อมูลที่ถูกสื่อสารกันทำให้เกิดความเข้าใจผิด ผู้ให้ข้อมูลก็ควรที่จะขอโทษและแก้ไขเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ดีกว่าปล่อยให้พนักงานที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมีความเข้าใจผิด
สิ่ง ที่พึงระวังอีกอย่างก็คือ ไม่ควรสื่อสารข้อมูลไปยังบุคคลที่ไม่สมควรที่จะต้องมารับรู้ซึ่งอาจจะทำให้ เกิดการพูดต่อที่ผิดๆ หรือที่แย่ไปกว่านั้นการบอกต่อข้อมูลจริงและเท็จประปนกันไปทำให้ข้อมูลบิด เบือนนั้นร้ายแรงเสียยิ่งกว่าการไม่สื่อสารเลยเสียอีก
คราวนี้มาลอง พิจราณากลวิธีในการสื่อสารของคุณเองว่าเป็นการสื่อสารแบบไหน ในขณะที่การสื่อสารแบบเผด็จการนั้นมีข้อเสียของมันเอง แต่ในขณะเดียวกันคุณต้องรักษาอำนาจของคุณไว้ด้วย ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ยอมรับในสถานการณ์ที่จะทำให้พนักงานของคุณตกอยู่ใน ภาวะที่อึดอัด หรือพูดง่ายๆว่าคุณจะไม่ยอมรับในสิ่งที่คุณคิดว่าไม่ถูกต้อง
นี้ อาจจะเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่อาจจะปฎิบัติได้ยากในสถานะการจริงเมื่อคุณต้อง ติดต่อสื่อสารกับคนหลายประเภท ถึงอย่างไรก็ตามคุณจะต้องกุมสถานการณ์ให้ได้และจงนึกไว้เสมอว่าคุณจะต้องคุม พนักงานมิฉะนั้นพนักงานก็จะมาคุมคุณเอง
ท้ายที่สุดคือการสื่อสารเพื่อ ให้กำลังใจต่อพนักงานโดยที่ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับผลงานก็เป็นสิ่งจำ เป็น การมีหน่วยงานที่มีคนที่รู้จริงและใส่ใจในตัวของพนักงานจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพในการทำงานและความพึงพอใจในที่ทำงานนั้นๆด้วย ซึ่งการทำให้พนักงานมีความรู้สึกอยากที่จะมาทำงานนั้นถือเป็นผลลัพธ์ที่ดี ของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่าการสื่อสารคือ ปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจ หากพนักงานทุกคนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรับทราบถึงแนวทางของบริษัท คุณก็สามารถวางใจและรอดูผลความสำเร็จของธุรกิจที่เป็นรางวัลจากการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพได้อย่างสบายใจ