เซอร์ฟคอร์ป ผู้ให้บริการสำนักงานเช่าพร้อม บริการและสำนักงานเสมือนอันดับหนึ่งของโลก ได้กลายมาเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมด้านไอที เพื่อจะสามารถก้าวล้ำคู่แข่งขัน และเล็งเห็นถึงประโยชน์จากเงินลงทุน 50 ล้านเหรียญ ที่หมดไปกับการวางเครือข่ายที่รวมบริการเสียงและข้อมูลเข้าไว้ด้วยกัน (Converged IP Network)
ผู้ให้บริการสำนักงานให้เช่าพร้อมบริการและพื้นที่สำนักงานเเบ่งเช่าหลาย ราย ปฏิเสธที่จะลงทุนกับงานด้านเทคโนโลยี ผลกำไรของพวกเขาสำคัญกว่าบริการ นั่นหมายความว่า ลูกค้าของพวกเขาจะต้องเดือดร้อนจากปัญหาระบบล่ม หรือข้อมูลสูญหาย และปัญหาการสื่อสารติดขัด มาร์คัส มูฟาร์ริจ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลเซอร์ฟคอร์ป กล่าวว่าความมุ่งมั่นของบริษัท ในการมีโครงสร้างระบบการสื่อสารที่แข็งแกร่ง เริ่มส่งผลดีกับบริษัทแล้ว
“ความ ทุ่มเทของเซอร์ฟคอร์ปและเงิน 50 ล้านดอลล่าร์ ที่บริษัทลงทุนไปกับระบบเครือข่าย IP แบบ Converged Network ทำให้ลูกค้าของเราได้ใช้บริการระบบที่ทำงานโดยไม่ติดขัดถึง 99.99%” มร. มูฟาร์ริจกล่าว
“เซอร์ฟคอร์ปยังให้คำมั่น ที่จะมอบบริการด้านการเชื่อมต่อเสียงและข้อมูลคุณภาพสูงสุด แก่ลูกค้าของเรา”
มร. มูฟาร์ริจกล่าวว่า ในมุมมองด้านเทคโนโลยี ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างเซอร์ฟคอร์ปกับบริษัทคู่แข่ง คือการตัดสินใจลงทุนในระบบโทรศัพท์ VoIP เมื่อสิบปีที่แล้ว สิ่งนี้เป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับเครือข่ายการสื่อสารที่เชื่อมโยงของเรา
“เทคโนโลยี ที่แข็งแกร่งเชื่อถือได้ มีการสำรองข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นสิ่งสำคัญที่จะรับประกันว่า คุณจะดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ไม่สำคัญว่าคุณจะอยู่ที่สำนักงานแห่งใดแห่งหนึ่งของเราหรือไม่ หรือกำลังใช้ระบบ Servcorp Online อยู่ที่ใดหรือในเวลาใด” เขากล่าว “แอพพลิเคชั่นใหม่บนไอโฟนของเรา ช่วยเพิ่มศักยภาพและความยืดหยุ่นได้”
เขา ยังกล่าวด้วยว่า ดัชนีชี้วัดบริการที่เหนือใครของเซอร์ฟคอร์ป เห็นได้จากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นำไปสู่ความวุ่นวายในย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ
“เมื่อสำนักงานของเซอร์ฟคอร์ปเกิดเพลิงไหม้ ลูกค้าได้รับคำแนะนำให้หยุดทำงานและออกจากอาคาร” มร. มูฟาร์ริจกล่าว
“พวกเขาไม่สามารถเข้าไปในสำนักงาน ความท้าทายของเราคือทำให้ธุรกิจของลูกค้ายังทำงานต่อไปได้ โดยปราศจากความพร้อมของสถานที่ทำงาน”
“สิ่ง นี้เป็นผลจากเครือข่ายที่เชื่อมโยมสาขาทุกแห่งทั่วโลก ทำให้สามารถโอนสายไปยังที่ตั้งสาขาอื่นๆ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือสิงคโปร์ นอกจากนี้ เรายังจัดให้พนักงานรับโทรศัพท์เดินทางไปที่นั่นเพื่อจะสามารถตอบรับ โทรศัพท์เป็นภาษาไทย ลูกค้าของเราได้เห็นข้อดีของการที่ธุรกิจยังเดินต่อไปได้ ขณะที่กรุงเทพฯ วุ่นวายกับปัญหาการเมือง”
มร. มูฟาร์ริจกล่าวต่อว่า เซอร์ฟคอร์ปยังมุ่งมั่นที่จะให้บริการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วใน ที่ตั้งสาขาทุกแห่ง ด้วยการลงทุนกับผู้ให้บริการที่ไม่มีการส่งผ่านข้อมูลไปยังเครือข่ายใดๆ
“คำ อธิบายจากประสบการณ์ของเราคือ ควรเลือกใช้ผู้ให้บริการพื้นฐาน เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้มากพอสมควร และเราจะรู้ได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นทำเลแห่งใดในโลกนี้ เราจะได้คุณภาพของระบบที่ดีที่สุด” เขากล่าวปิดท้าย